รักษาหลุมสิว ยิ่งรักษา ยิ่งแย่ลง มีจริงไหม หลุมสิวรักษาไม่ดีแย่ลงจริงไหม เกิดขึ้นได้อย่างไร?

Last updated: 17 ธ.ค. 2567  |  20 จำนวนผู้เข้าชม  | 

รักษาหลุมสิว ยิ่งรักษา ยิ่งแย่ลง มีจริงไหม หลุมสิวรักษาไม่ดีแย่ลงจริงไหม เกิดขึ้นได้อย่างไร?


การรักษาหลุมสิว ยิ่งรักษายิ่งแย่ มีจริงไหม? เกิดขึ้นได้อย่างไร?

การรักษาหลุมสิวที่ไม่ถูกวิธีอาจทำให้ปัญหาแย่ลงได้จริง ซึ่งสาเหตุหลักมักเกี่ยวข้องกับการเลือกวิธีการรักษาไม่เหมาะสม, การปฏิบัติที่ไม่ถูกต้อง, หรือการดูแลหลังทำที่ไม่เพียงพอ เรามาเจาะลึกถึงสาเหตุและ 

4 ปัจจัยหลักๆ ที่ทำให้การรักษาหลุมสิวแย่ลงมีดังนี้

1. การรักษาหลุมสิวโดยแพทย์ที่ขาดความเชี่ยวชาญหรือใช้เทคนิคที่ไม่เหมาะสม
ทำให้ปัญหาหลุมสิวเลวร้ายลงได้ เพราะการรักษาหลุมสิวเกี่ยวข้องกับการกระตุ้นการซ่อมแซมของผิวที่ลึกในชั้นหนังแท้ หากไม่ระมัดระวังหรือไม่มีความเข้าใจในโครงสร้างผิวและเทคโนโลยีที่ใช้ อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงรุนแรง เช่น การอักเสบ การติดเชื้อ หรือการทำลายผิวหนังชั้นลึก ซึ่งจะยิ่งทำให้หลุมสิวลึกและขยายตัวมากขึ้น ตัวอย่างของปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้มีดังนี้: 

1.1 การใช้เลเซอร์ที่ไม่เหมาะสม
หากใช้เลเซอร์ที่มีพลังงานสูงเกินไปหรือลงลึกเกินไปโดยไม่ได้คำนึงถึงสภาพผิวของคนไข้ เช่น การใช้ Fractional CO2 Laser ในระดับพลังงานที่สูงเกินไปในการรักษาหลุมสิวตื้น อาจทำให้ผิวหนังชั้นล่างได้รับการบาดเจ็บมากเกินไป และอาจนำไปสู่การเกิดรอยแผลเป็นใหม่หรือทำให้หลุมสิวลึกกว่าเดิมได้ นอกจากนี้ หากไม่มีการตั้งค่าเครื่องมือให้เหมาะสม เช่น ขนาดจุดเลเซอร์หรือความถี่ในการยิง อาจส่งผลให้ผิวเกิดการไหม้ (thermal damage) ทำให้การซ่อมแซมผิวทำงานผิดปกติ


ตัวอย่าง: ผู้ป่วยที่มีหลุมสิวประเภท Rolling Scar ระดับตื้น เคยได้รับการรักษาด้วย Fractional CO2 Laser ที่ความลึกและพลังงานสูงเกินไป ผลที่ได้คือเกิดรอยแดงและอาการอักเสบเป็นเวลานาน ซึ่งทำให้หลุมสิวยิ่งชัดขึ้นและลึกกว่าเดิม

1.2 การทำ Subcision โดยไม่ระวัง Subcision เป็นการใช้เข็มแทงเข้าไปใต้ผิวเพื่อคลายเส้นใยที่ดึงรั้งผิวที่ทำให้เกิดหลุมสิว แต่หากผู้รักษาไม่มีความชำนาญพอ อาจแทงเข็มลึกเกินไปหรือในตำแหน่งที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บที่ผิวหนังชั้นลึกและเกิดการสะสมเลือด (hematoma) หรือการติดเชื้อที่จุดทำการรักษา ทำให้ผิวอักเสบและหลุมสิวลึกขึ้น หรือเกิดแผลเป็นใหม่ที่เห็นชัดเจน

  • การตัดพังผืดในทุกชั้นอย่างไร้ทิศทาง โดยไม่คำนึงถึงเส้นเอ็นหรือโครงสร้างผิวที่ช่วยพยุงใบหน้า อาจทำให้เกิดปัญหาผิวหย่อนคล้อยในอนาคต 
  • การเกิดพังผืดใหม่ที่แน่นกว่าเดิมหากทำโดยขาดความชำนาญ หรือมีการตัดที่ลึกและกว้างเกินไป พังผืดใหม่อาจเกิดขึ้นและดึงรั้งผิวมากกว่าเดิม
    ปัญหาผิวหย่อนคล้อยหากเข็มไปตัดในบริเวณที่มีเส้นเอ็นหรือโครงสร้างที่ช่วยพยุงผิว อาจทำให้ผิวหย่อนคล้อยมากขึ้น โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยอยู่แล้ว

ตัวอย่าง: มีกรณีผู้ป่วยได้รับการรักษาหลุมสิว Rolling Scar ด้วย Subcision แต่แพทย์ไม่มีความชำนาญ ทำให้แทงเข็มลึกเกินไปและทำให้เกิด hematoma ผิวช้ำและเป็นแผลลึก ส่งผลให้หลุมสิวเพิ่มขึ้นในบริเวณนั้น

1.3 การใช้กรด TCA Cross ไม่ถูกวิธี
TCA Cross เป็นการใช้กรดไตรคลอโรอะซิติก (TCA) เข้มข้นทาบริเวณหลุมสิวเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน แต่การใช้กรดนี้ต้องการความระมัดระวัง หากใช้ความเข้มข้นมากเกินไปหรือทาบริเวณหลุมสิวที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้ผิวหนังเกิดการกัดเซาะจนเกิดแผลใหม่ที่ลึกกว่าเดิม แทนที่จะช่วยเติมเต็มหลุมสิว
ตัวอย่าง: ผู้ป่วยที่มีหลุมสิวแบบ Ice Pick Scar เคยได้รับการทา TCA Cross ในความเข้มข้นสูงเกินไปโดยไม่มีการควบคุมอย่างเหมาะสม ทำให้เกิดรอยแผลเป็นใหม่ที่ลึกขึ้นแทนที่จะช่วยลดหลุมสิว

1.4 Microneedling โดยไม่มีการฆ่าเชื้อ
การทำ Microneedling เป็นการใช้เข็มเล็ก ๆ เจาะผิวหนังเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน แต่หากไม่ทำการฆ่าเชื้อเครื่องมืออย่างเหมาะสมหรือทำในคลินิกที่ไม่มีมาตรฐานด้านสุขอนามัย อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่บริเวณที่ทำการรักษา ซึ่งการติดเชื้อเหล่านี้อาจทำให้เกิดการอักเสบและรอยแผลเป็นถาวรที่ลึกกว่าเดิม ทำให้หลุมสิวยิ่งขยายตัวและชัดเจน
ตัวอย่าง: ผู้ป่วยรายหนึ่งได้รับการทำ Microneedling ที่คลินิกที่ไม่มีมาตรฐานในการฆ่าเชื้อ ส่งผลให้เกิดการติดเชื้อในบริเวณที่รักษา มีการอักเสบเป็นเวลานาน และทิ้งรอยแผลเป็นใหม่ที่ชัดเจนและลึกกว่าเดิม

1.5 การเลือกวิธีการรักษาไม่เหมาะสม หลุมสิวมีหลายประเภท เช่น Rolling, Boxcar, Ice Pick ซึ่งแต่ละประเภทต้องการการรักษาที่ต่างกัน

2. การดูแลหลังทำไม่เหมาะสม

  • ไม่หลีกเลี่ยงแสงแดดหลังการรักษา อาจทำให้เกิดรอยดำหรือผิวหมองคล้ำ
  • ไม่ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ช่วยฟื้นฟู เช่น มอยส์เจอไรเซอร์และครีมกันแดด
  • การสัมผัสหรือเกาผิวหลังการรักษา อาจกระตุ้นให้เกิดการติดเชื้อ

3. ความผิดพลาดจากตัวผู้ป่วย
ความคาดหวังที่ไม่สอดคล้องกับความจริง หลุมสิวบางประเภท เช่น Ice Pick ต้องใช้การรักษาหลายครั้ง และอาจไม่หายขาด

4. เลือกใช้บริการจากผู้เชี่ยวชาญที่ไม่มีประสบการณ์ หรือสถานที่ที่ไม่ได้มาตรฐาน 
- การใช้บริการจากสถานที่หรือคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน อุปกรณ์ไม่ทันสมัยหรือไม่ได้มาตรฐาน
การใช้เครื่องมือที่ไม่ได้รับการรับรองหรือไม่ได้มาตรฐานทางการแพทย์ เช่น เครื่องเลเซอร์หรือเครื่อง RF ที่ไม่ได้ผ่านการตรวจสอบความปลอดภัย อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น ผิวไหม้, บาดแผล หรือแผลเป็นถาวร

-ความสะอาดไม่เพียงพอ
หากสถานที่รักษามีความสะอาดไม่เพียงพอ เช่น ไม่มีการฆ่าเชื้ออย่างถูกต้อง หรือสภาพแวดล้อมที่ไม่สะอาด อาจทำให้เกิดการติดเชื้อหลังการรักษา ส่งผลให้แผลอักเสบและหลุมสิวลึกลงไป

- การใช้ตัวยาที่ไม่ได้คุณภาพหรือไม่เหมาะสม
การใช้ตัวยาที่ไม่ได้รับการอนุมัติจากอย. บางคลินิกหรือสถานที่รักษาอาจใช้สารหรือยาที่ไม่ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ซึ่งอาจไม่ปลอดภัย เช่น ฟิลเลอร์ปลอม หรือสารที่ไม่เหมาะสมกับสภาพผิวของผู้ป่วย

- การใช้ตัวยาที่ไม่มีการตรวจสอบความปลอดภัย
ยาหรือสารบางชนิดอาจมีผลข้างเคียงที่รุนแรงหากใช้ผิดประเภทหรือผิดวิธี เช่น การใช้กรดที่แรงเกินไป อาจทำให้ผิวเสียหายมากขึ้น

- การรักษาโดยบุคคลที่ไม่มีคุณสมบัติ
แพทย์ที่ไม่มีใบอนุญาตหรือเป็นแพทย์ปลอม
การรักษาหลุมสิวต้องอาศัยความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์สภาพผิวและเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสม หากคุณไปหาผู้ที่ไม่มีใบอนุญาต เช่น แพทย์ปลอม หรือแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ในการรักษาผิว อาจทำให้การรักษาไม่ประสบผลสำเร็จและทำให้แผลเป็นยิ่งลึกลง บางแห่งอาจใช้พยาบาลหรือผู้ช่วยแทนแพทย์ในการทำหัตถการ เช่น Subcision หรือเลเซอร์ ซึ่งต้องอาศัยความแม่นยำและประสบการณ์สูง

การป้องกันไม่ให้การรักษาหลุมสิวแย่ลง: ทำไมคุณภาพต้องมาก่อน?
หลุมสิวเป็นปัญหาผิวที่ซับซ้อนและต้องการการรักษาที่แม่นยำ การลงทุนในการรักษาที่ได้มาตรฐานและปลอดภัยจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด การพยายามประหยัดโดยเลือกการรักษาที่ราคาถูก อาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่แย่ลงและสร้างปัญหาผิวระยะยาวได้อย่างไม่คุ้มค่า
1. แพทย์ผู้เชี่ยวชาญคือหัวใจสำคัญ

  • การรักษาหลุมสิวต้องอาศัยความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์เฉพาะทางของแพทย์
  • การวิเคราะห์หลุมสิว
    แพทย์ที่มีประสบการณ์จะสามารถวิเคราะห์ชนิดของหลุมสิว เช่น Rolling, Boxcar หรือ Ice Pick และเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสม เช่น เลเซอร์, Subcision หรือการเติมฟิลเลอร์
  • เทคนิคการรักษาเฉพาะบุคคล
    การลงเข็ม Subcision หรือการยิงเลเซอร์ในระดับพลังงานที่เหมาะสมต้องการทักษะสูง หากผู้รักษาไม่ใช่แพทย์หรือไม่มีความเชี่ยวชาญ อาจทำให้เกิดการอักเสบหรือแผลเป็นเพิ่มเติม
  • ค่าตัวแพทย์ที่สูงสะท้อนคุณภาพ
    แพทย์ที่เชี่ยวชาญมักมีค่าบริการสูง เนื่องจากประสบการณ์และผลลัพธ์ที่น่าเชื่อถือ ซึ่งไม่สามารถทดแทนได้ด้วยบริการราคาถูก

2. เครื่องมือที่มีคุณภาพมาตรฐานสูง
เครื่องมือทางการแพทย์ เช่น เลเซอร์ Fractional, RF Microneedling หรือเครื่องมือ Subcision ต้องการการลงทุนสูงจากคลินิก

  • ต้นทุนเครื่องมือที่ได้มาตรฐาน
    เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพและได้รับการรับรองจากอย. (FDA) เช่น Pico Laser หรือ CO2 Laser มักมีราคาหลักล้านบาท การใช้เครื่องมือราคาถูกที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจทำให้พลังงานไม่เสถียร ส่งผลให้เกิดผิวไหม้หรือแผลเป็น
  • การบำรุงรักษาเครื่องมือ
    คลินิกที่มีมาตรฐานจะมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาเครื่องมืออย่างต่อเนื่องเพื่อให้พร้อมใช้งานได้อย่างปลอดภัย ซึ่งเพิ่มต้นทุนในการให้บริการ

3. ตัวยาและผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการรักษา

  • ตัวยาที่ดีมีผลอย่างมากต่อผลลัพธ์ในการรักษา
  • การเลือกตัวยา ที่มีอย. เช่น ฟิลเลอร์แท้ที่ได้รับการรับรอง เช่น Hyaluronic Acid ฟิลเลอร์จากแบรนด์ชั้นนำ มีราคาสูงกว่าฟิลเลอร์ปลอมที่อาจก่อให้เกิดการติดเชื้อ, ก้อนใต้ผิว หรือแผลเป็นถาวร
  • ผลิตภัณฑ์บำรุงหลังการรักษา: คลินิกที่ใส่ใจคุณภาพจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยฟื้นฟูผิว เช่น Exosome, Growth Factor, หรือเซรั่มที่มีคุณภาพ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการฟื้นฟูผิวหลังการรักษา

4. ราคาถูกเกินจริงการรักษาหลุมสิวราคาถูกมักมีการลดต้นทุนในส่วนสำคัญที่อาจส่งผลเสียต่อผลลัพธ์และความปลอดภัย

  • ใช้บุคลากรที่ไม่มีความเชี่ยวชาญ : คลินิกบางแห่งอาจใช้พยาบาลหรือผู้ช่วยแทนแพทย์ในการทำหัตถการ เช่น Subcision หรือเลเซอร์ ซึ่งต้องอาศัยความแม่นยำและประสบการณ์สูง
  • ตัดค่าเครื่องมือ : ใช้เครื่องมือที่ล้าสมัยหรือไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งส่งผลให้พลังงานที่ยิงลงไปในผิวไม่เสถียร ทำให้เกิดการอักเสบหรือผิวเสียหาย
  • ลดคุณภาพตัวยา :ตัวยาที่ไม่ได้รับการรับรอง หรือใช้ในปริมาณน้อยเกินไปเพื่อลดต้นทุน ทำให้ผลลัพธ์ไม่ดีหรือเกิดผลข้างเคียง

วิธีป้องกันไม่ให้เจอปัญหาจากการรักษาราคาถูก

  • ตรวจสอบใบอนุญาตแพทย์
  • หลีกเลี่ยงโปรโมชั่นที่ถูกเกินจริง โปรโมชั่นที่ราคาต่ำเกินไป อาจเป็นสัญญาณของการใช้ตัวยาหรือเครื่องมือที่ไม่ได้มาตรฐาน
  • ดูรีวิวจากผู้รับบริการจริง ค้นหารีวิวและผลลัพธ์จากผู้รับบริการจริงในสถานที่นั้น ๆ เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพ
  • เลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ คลินิกที่มีมาตรฐานจะมีใบรับรองเครื่องมือแพทย์ที่ได้รับการอนุมัติ และให้คำปรึกษาโดยแพทย์ที่เชี่ยวชาญเท่านั้น

สรุป
การรักษาหลุมสิวอาจแย่ลงได้ หากเลือกวิธีที่ไม่เหมาะสม, ใช้เทคนิคที่ผิดพลาด, หรือขาดการดูแลหลังทำอย่างถูกต้อง การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญและการปฏิบัติตามคำแนะนำจึงเป็นสิ่งสำคัญในการหลีกเลี่ยงปัญหานี้ เพื่อให้คุณได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย

การรักษาหลุมสิวที่ได้ผลดีและปลอดภัยนั้น ต้องลงทุนในแพทย์ที่มีประสบการณ์ เครื่องมือที่มีคุณภาพ และตัวยาที่ผ่านการรับรอง หากคุณเห็นบริการที่มีราคาต่ำเกินจริง นั่นอาจเป็นสัญญาณของความเสี่ยง การลงทุนในคุณภาพตั้งแต่แรกจะช่วยให้คุณได้รับผลลัพธ์ที่ดีและลดโอกาสเกิดปัญหาผิวในระยะยาว.

การรักษาหลุมสิวจึงจำเป็นต้องดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์และความรู้เกี่ยวกับเทคนิคที่เหมาะสมกับสภาพผิวแต่ละบุคคล ทั้งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงที่อาจทำให้หลุมสิวแย่ลงกว่าเดิม การเลือกคลินิกที่มีมาตรฐานและแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญจะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการได้ผลลัพธ์ที่ดี

Realclinic ทางเลือกของคนที่ต้องการแก้ปัญหาหลุมสิวอย่างมั่นใจ
หากคุณกำลังมองหาวิธีรักษาหลุมสิวที่ให้ผลลัพธ์ชัดเจน และได้รับการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญที่เข้าใจปัญหาผิวหน้าอย่างแท้จริง Realclinic คือคำตอบของคุณ เราพร้อมช่วยคุณฟื้นฟูความมั่นใจและปรับผิวให้เรียบเนียนอีกครั้ง ด้วยเทคนิคเฉพาะ และทีมแพทย์ที่เชี่ยวชาญในด้านนี้โดยเฉพาะ

โปรแกรมเด่นที่ Realclinic สำหรับหลุมสิว: Real Scar Synergy และ Juvgen
ฟิลเลอร์หลุมสิว ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว fillerหลุมสิว เติมเต็มหลุมสิว ดรจินหลุมสิว หลุมสิวเกาหลี 1. Real Scar Synergy: โปรแกรมผสานเทคนิคที่ตอบโจทย์ทุกประเภทหลุมสิว
คือ โปรแกรมรักษาหลุมสิวที่ออกแบบขึ้นโดย Dr.Ramita ซึ่งเน้นการรักษาโดยวิธีหัตถการแพทย์เป็นหลัก (Non-Energy Based Acne Scar Revision) ด้วยเทคนิคเฉพาะของ Dr.Ramita ผสมผสานหลายวิธีมาตรฐานที่มีงานวิจัยรองรับ เสริมด้วยเทคนิคพิเศษที่คุณหมอศึกษาเพิ่มเติมจากอาจารย์แพทย์ชาวเกาหลี คือการฉีดสารฟื้นฟูเติมเต็มร่วมกับฉีดก๊าซเข้าไปตัดพังผืดและไปกระตุ้นเนื้อเยื่อคอลลาเจนใต้ผิว ทำให้เกิด Skin Regeneration ฟื้นฟูหลุมสิวด้วยคอลลาเจนของตัวเราเอง เพิ่มเติมด้วยสารฟื้นบำรุงช่วยปรับปรุงคุณภาพผิว เพื่อเสริมประสิทธิภาพการรักษาให้เห็นผลเร็วยิ่งขึ้น ลดการบวมช้ำ ไม่ต้องพักหน้า
คลิก อ่านข้อมูลเพิ่มเติม

ฟิลเลอร์หลุมสิว ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว fillerหลุมสิว เติมเต็มหลุมสิว ดรจินหลุมสิว หลุมสิวเกาหลี 2. Juvgen คือการรักษาหลุมสิวที่ คุณหมอรมิตา ได้รับการถ่ายทอดโดยตรงจาก Dr. Jin Se-hun (ดร.จิน รักษาหลุมสิวเกาหลี) ศัลยแพทย์ตกแต่งชื่อดังชาวเกาหลี เทคนิคนี้มุ่งเน้นการกระตุ้นคอลลาเจนการ ฟื้นฟูผิวหนังด้วยตัวเอง โดยใช้การฉีดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Co2) และกรดไฮยาลูโรนิกอนุภาคเล็ก (Hyaluronic Acid) เข้าสู่ชั้นหนังแท้บริเวณที่มีปัญหา เช่น หลุมสิว ริ้วรอยร่องลึก หรือแผลเป็นเนื้อผิวยุบตัว กระบวนการนี้จะช่วยสร้างเนื้อเยื่อผิวคอลลาเจนในปริมาณมากให้ขึ้นมามาทดแทนผิวหนังที่เคยยุบเป็นหลุม ให้สามารถฟูตัวขึ้นมา ช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ เนื้อเยื่อใหม่ โดยไม่ทำลายโครงสร้างผิวหนัง หลังการรักษาประมาณ 3-5 วัน จะสังเกตเห็นการยกตัวของเนื้อเยื่อคอลลาเจนใหม่ที่ขึ้นมาช่วยลดเลือนแผลเป็นหลุมสิวความไม่เรียบเนียนของผิว 
คลิกอ่านข้อมูลเพิ่มเติม

3. เลเซอร์เกลี่ยขอบหลุมสิว ด้วยเครื่อง  MCL Dermablate: ErbiumYAG

  • หลุมสิวตื้นขึ้นอย่างชัดเจน
  • ผิวหน้าเรียบเนียน ผิวฟูขึ้น
  •  เครื่องเลเซอร์ที่ได้มาตรฐานจากประเทศเยอรมนี USFDA approved และ อย.ไทย ซึ่งเครื่องนี้นับเป็นอีกหนึ่ง Gold Standard Laser 
  • ไม่เจ็บ ไม่แสบร้อนขณะทำ
  • ราคาไม่แพง เมื่่อเทียบกับผลลพธ์ คุ้มค่าในการรับบริการ
  • เห็นผลลัพธ์ความเปลี่ยนแปลงของผิวที่ดีขึ้นหลังทำ
  • สามารถทำร่วมกับการทำ Subcision หรือหัตถการอื่นๆ เพื่อให้ผลลัพธ์ของการรักษาหลุมสิวดีขึ้นได้

คลิกอ่านข้อมูลเพิ่มเติม

Powered by MakeWebEasy.com